เมนู

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค [1.ขันธสังยุต]
มัชฌิมปัณณาสก์ 4. เถรวรรค 2. ติสสสูตร

เร่าร้อน ไม่ปราศจากความทะยานอยากในวิญญาณ เพราะวิญญาณนั้นแปรผัน
และเป็นอย่างอื่น โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาสจึงเกิดขึ้นใช่ไหม”
“ใช่ พระพุทธเจ้าข้า”
“ดีละ ดีละ ติสสะ เรื่องนี้เป็นอย่างนั้น เมื่อบุคคลผู้ยังไม่ปราศจากความ
กำหนัด ... ในวิญญาณ ฯลฯ ติสสะ เธอจะเข้าใจความข้อนั้นว่าอย่างไร เมื่อ
บุคคลผู้ปราศจากความกำหนัด ปราศจากความพอใจ ปราศจากความรัก ปราศ
จากความกระหาย ปราศจากความเร่าร้อน ปราศจากความทะยานอยากในรูป
เพราะรูปนั้นแปรผันและเป็นอย่างอื่น โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส
จึงเกิดขึ้น ใช่ไหม”
“ไม่ใช่ พระพุทธเจ้าข้า”
“ดีละ ดีละ ติสสะ เรื่องนี้เป็นอย่างนั้น เมื่อบุคคลผู้ปราศจากความกำหนัด ...
ในรูป ... ในเวทนา ... ในสัญญา ... ในสังขาร ... เมื่อบุคคลผู้ปราศจาก
ความกำหนัด ปราศจากความพอใจ ปราศจากความรัก ปราศจากความกระหาย
ปราศจากความเร่าร้อน ปราศจากความทะยานอยากในวิญญาณ เพราะวิญญาณ
นั้นแปรผันและเป็นอย่างอื่น โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาสจึงเกิดขึ้น
ใช่ไหม”
“ไม่ใช่ พระพุทธเจ้าข้า”
“ดีละ ดีละ ติสสะ เรื่องนี้เป็นอย่างนั้น เมื่อบุคคลผู้ปราศจากความกำหนัด ...
ในวิญญาณ ... ติสสะ เธอจะเข้าใจความข้อนั้นว่าอย่างไร รูปเที่ยงหรือไม่เที่ยง”
“ไม่เที่ยง พระพุทธเจ้าข้า”
“เวทนา ... สัญญา ... สังขาร ... วิญญาณเที่ยงหรือไม่เที่ยง”
“ไม่เที่ยง พระพุทธเจ้าข้า”
“เพราะเหตุนั้นแล ฯลฯ อริยสาวกผู้ได้สดับเห็นอยู่อย่างนี้ ฯลฯ รู้ชัดว่า ...
ไม่มีกิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้อีกต่อไป

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 17 หน้า :145 }


พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค [1.ขันธสังยุต]
มัชฌิมปัณณาสก์ 4. เถรวรรค 2. ติสสสูตร

ติสสะ เปรียบเหมือนบุรุษ 2 คน คนหนึ่งไม่ฉลาดในหนทาง คนหนึ่ง
ฉลาดในหนทาง บุรุษผู้ไม่ฉลาดในหนทางพึงถามทางกับบุรุษผู้ฉลาดในหนทาง
บุรุษผู้ฉลาดในหนทางพึงตอบว่า ‘ผู้เจริญ ท่านไปตามทางนี้อีกสักครู่ก็จักพบทาง
2 แพร่ง ในทาง 2 แพร่งนั้น ท่านจงละทางซ้าย ไปทางขวาเถิด ไปตามทาง
นั้นอีกสักครู่ก็จักพบราวป่าหนาทึบ ไปตามทางนั้นอีกสักครู่ก็จักพบที่ลุ่มใหญ่มีเปือกตม
ไปตามทางนั้นอีกสักครู่ก็จักพบบึงที่ลึก ไปตามทางนั้นอีกสักครู่ก็จักพบพื้นที่ราบ
น่ารื่นรมย์’
ติสสะ อุปมานี้เรายกมาเพื่อให้เข้าใจเนื้อความแจ่มชัด ในอุปมานั้นมีอธิบาย
ดังนี้
คำว่า บุรุษผู้ไม่ฉลาดในหนทาง นี้เป็นคำเรียกปุถุชน
คำว่า บุรุษผู้ฉลาดในหนทาง นี้เป็นคำเรียกตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
คำว่า ทาง 2 แพร่ง นี้เป็นคำเรียกวิจิกิจฉา
คำว่า ทางซ้าย นี้เป็นคำเรียกมิจฉามรรคมีองค์ 8 คือ (1) มิจฉาทิฏฐิ ฯลฯ
(8) มิจฉาสมาธิ
คำว่า ทางขวา นี้เป็นคำเรียกอริยมรรคมีองค์ 8 คือ (1) สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ
(8) สัมมาสมาธิ
คำว่า ราวป่าหนาทึบ นี้เป็นคำเรียกอวิชชา
คำว่า ที่ลุ่มใหญ่มีเปือกตม นี้เป็นคำเรียกกามทั้งหลาย
คำว่า บึงที่ลึก นี้เป็นคำเรียกความโกรธและความคับแค้นใจ
คำว่า พื้นที่ราบน่ารื่นรมย์ นี้เป็นคำเรียกนิพพาน
ติสสะ เธอจงยินดี ติสสะ เธอจงยินดีตามโอวาทที่เรากล่าวสอน ตามความ
อนุเคราะห์ที่เราอนุเคราะห์ ตามคำพร่ำสอนที่เราพร่ำสอนเถิด”
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสภาษิตนี้แล้ว ท่านพระติสสะมีใจยินดีชื่นชมพระภาษิต
ของพระผู้มีพระภาค

ติสสสูตรที่ 2 จบ